Skip to content

รู้หรือไม่? ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง เป็นสาเหตุสำคัญ ของการเกิดตับแข็งและมะเร็งตับ หากอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน จะสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

หน้าแรก  >  บทความเกี่ยวกับสุขภาพ

ทราบได้ อย่างไรว่าเป็นโรค ไวรัสตับอักเสบบี และซี

การวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยที่สงสัยว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรค ทำได้โดยการตรวจเลือดหาแอนติเจนของเชื้อที่เรียกว่า เอชบีเอสแอนติเจน (HBsAg หรือ hepatitis B surface antigen) นอกจากนี้ยังสามารถตรวจ อี แอนติเจน (HBeAg) แสดงว่าเชื้อไวรัสบักำลังแบ่งตัว ซึ่งในภาวะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่ผู้ป่วยจะแพร่เชื้อไวรัสบีติดต่อผู้อื่นได้หรือ ตรวจหาปริมาณของเชื้อไวรัสตับ (HBV-DNA) จากเลือดโดยตรง นอกจากนี้ผู้ใดเคยติดเชื้อมาในอดีตและมีภูมิคุ้มกันต่อโรคจะทราบได้โดยการตรวจหาแอนติบอดีต่อเชื้อเช่น anti-HBs

ส่วนการวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยที่สางสัยว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี หรือสงสัยว่าเป็นพาหะทำได้โดยการตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสซี (anti-HCV) หรือตรวจหาปริมาณของเชื้อไวรัสซี (HCV-RNA) โดยวิธี PCR

การดูแลรักษาและป้องกันการติดต่อโรคไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญระดับโลก โดยเฉพาะตับอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบีและซี เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้บางคนอาจจะดำเนินโรคเป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ ประมาณร้อยละ 5 ของประชากรโลกหรือ 3.5 ล้านคน ที่ติดเชื่อไวรัสตับอักเสบบีและมีผู้ที่เป็นพาหะเชื้อไวรัสตับอักเสบบีมากกว่า 370 ล้านคนทั่วโลกและเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสนี้มากกว่า 250,000 คนต่อปี และที่สำคัญประมาณร้อยละ 70 ของผู้ที่เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นชาวเอเชีย สำหรับประเทศไทยนับเป็นแหล่งที่มีโรคตับอักเสบบีมากประเทศหนึ่งของโลก มีประชากรที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบีถึงร้อยละ 5-10 หรือประมาณ 5-6 ล้านคนที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบเฉียบพลันร้อยละ 30-40 และเป็นสาเหตุของโรคตับอักเสบชนิดเรื้อรังถึงร้อยละ 60-70 ของผู้ป่วยดังนั้นโรคไวรัสตับอักเสบบีจึงนับว่ามีความสำคัญมากสำหรับประเทศไทย แต่ในปัจจุบันหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีให้เด็กแรกเกิดทุกคน ทำให้อุบัติการณ์ในคนไทยลดลงเหลือประมาณร้อยละ 3-5

ในประเทศไทยโรคตับอักเสบซีชนิดเรื้อรังและพาหะของเชื้อไวรัส มีประมาณร้อยละ 1-5 หรือประมาณ 6 แสนถึง 3 ล้านคน นับเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบซี และที่สำคัญในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบซี

สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับโรคตับอักเสบซีและโรคตับอื่น ๆ ได้ที่ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ รพ.กรุงเทพพัทยา หรือโทร.1719

 

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง