สภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือด Arteriosclerosis กับการตรวจเช็คสมรรถภาพของหลอดเลือดแดง โดยเครื่อง Vascular Screening
ในปัจจุบันนี้ ปัญหาเรื่องสภาวะแข็งตัวของหลอดเลือดแดง (Arteriosclerosis) และหลอดเลือดตีบแคบหรือการอุดตันของหลอดเลือด (Stenosis or Occlusion) เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ “โรคหลอดเลือดหัวใจ” (Coronary Heart Disease) และโรคของหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral Arterial Disease)
ดังนั้นการดุแลรักษาหลอดเลือดแดงให้อยู่ในสภาพแข็งแรงสมบุรณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งประการหนึ่งเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นไว้แต่เนิ่นๆ
ปัจจัยเสี่ยงของ Arteriosclerosis คือ
1. ความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด (Dyslipidemia) ที่พบบ่อยมี 4 ชนิด คือ
1.1 มีระดับไขมันคอเลสเทอรอลในเลือดสูง (Total Cholesterol) ค่าปกติไม่ควรสูงเกิน 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
1.2 มีระดับแอลดีแอลคอเลสเทอรอลสูง (LDL-Cholesterol) ซึ่งเป็นไขมันที่ทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด ค่าปกติควรน้อยกว่า 130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
1.3 มีระดับเอชดีแอลคอเลสเทอรอลต่ำ (HDL-Cholesterol) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่ช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือดในระดับต่ำ ค่าปกติของผู้ชายอยู่ที่ระดับ 40-50 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ผู้หญิงควรอยู่ที่ระดับ 50-60 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
1.4 มีระดับไขมันไตรกรีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือดสูง (Triglyceride) ค่าปกติไม่ควรสูงเกิน 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
2. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติจะมีอัตราการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งได้มากกว่าผู้ที่มีความดันโลหิตปกติรวมทั้งอัตราการตายจากโรคหัวใจก็จะสูงขึ้นด้วย
3. โรคเบาหวาน (Diabetes Millitus)
สภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดการทำงานของเซลล์บุผนังหลอดเลือดผิดไปจากปกติ (Endothelial Dysfunction) และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสภาวะหลอดเลือดแดงแข็งอีกด้วย โดยที่ผู้ป่วยเบาหวานจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น 3-5 เท่า
4. อาหาร (Dietary)
พบว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) และ/หรือ คอเลสเทอรอลในปริมาณสูงหรือรับประทานอาหารที่มีกากใย (Fiber) น้อยเกินไปจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเพิ่มขึ้น
5. การขาดการออกกำลังกาย (Physical Inactivity)
ทำให้น้ำหนักเกินหรือเกิดโรคอ้วน รวมทั้งระดับของเอชดีแอลคอเลสเทอรอลในเลือดต่ำลงด้วย
6. โรคอ้วน (Obesity) หรือภาวะน้ำหนักเกิน (Over-weight)
- คนอ้วนมักจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมากกว่าคนปกติ
- คนอ้วนมักจะมีความผิดปกติของระดับไขมันต่างๆ ในเลือดได้มากกว่าคนปกติ
- คนอ้วนจะมีระดับของฮอร์โมนอินซูลินในเลือดสูง (Hyperinsulinemia) ซึ่งมีผลในการกระตุ้นการเจริญที่มากผิดปกติของเซลล์กล้ามเนื้อของผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดตีบแคบลงได้
7. การสูบบุหรี่
- เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระดับเอชดีแอลคอเรสเทอรอลในเลือดต่ำ
- ทำให้เกิดกระบวนการออกซิเดชั่น (Oxidation) ของแอลดีแอลคอเรสเทอรอลเป็นสาเหตุให้เกิดลิ่มเลือดได้ง่ายขึ้น
- การทำงานของเซลล์บุผนังหลอดเลือดผิดไปจากปกติ
แนวทางการป้องกัน
- เลิกสูบบุหรี่
- ควบคุมระดับไขมันต่างๆในเลือดให้อยู่ในระดับที่พึงประสงค์
- ออกกำลังกายชนิดที่ร่างกายต้องการออกซิเจนในปริมาณสูง (Aerobic Exercise) เช่น ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง เดินเร็ว เป็นต้น โดยจะต้องทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30 นาที
- รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเรสเทอรอลในปริมาณต่ำ หลีกเลี่ยงหรือลดอาหารประเภท เครื่องในสัตว์ เครื่องสัตว์ติดมัน น้ำมันหมู หนังสัตว์ ไข่แดง ปลาหมึก กุ้ง และหอยนางรม รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีกากใยอาหาร เช่น ผักและผลไม้ให้มากขึ้น
- ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป
- หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง และ/หรือ โรคเบาหวานจะต้องควบคุมระดับความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
- ควรตรวจสุขภาพเป็นระยะตามเวลาที่เหมาะสม
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หัวใจ โทร.1719