Skip to content

ทำความรู้จักเบาหวานขึ้นตา และการรักษาที่ทำได้

หน้าแรก  >  บทความเกี่ยวกับสุขภาพ

เบาหวานขึ้นตา วิธีรักษา

เบาหวานขึ้นตาคืออะไร

ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ส่งผลให้ผนังหลอดเลือดฝอยเสื่อมทั่วร่างกาย รวมทั้งหลอดเลือดที่จอตาด้วย เลือดและสารต่าง ๆ จะรั่วซึมออกจากหลอดเลือดที่ผิดปกติเหล่านี้ และทำให้เกิดภาวะเบาหวานขึ้นตา (diabetic retinopathy, DR) ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะตามความรุนแรงของโรคคือ ระยะที่ยังไม่มีการสร้างหลอดเลือดใหม่ และระยะที่มีการสร้างหลอดเลือดใหม่

ผู้ป่วยที่มีเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกมักไม่รู้สึกผิดปกติใด ๆ เมื่อตรวจตาอาจพบจุดเลือดออกที่จอตา หากมีการรั่วซึมของหลอดเลือดจะพบจอตาบวมและเริ่มมีอาการตามัว หากโรคลุกลามมากขึ้นจนเกิดการอุดตันของหลอดเลือดจะทำให้เกิดภาวะจอตาขาดเลือด ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ (neovascularization) หลอดเลือดเหล่านี้มีลักษณะเปราะและแตกง่าย ทำให้เลือดออกในตาและเกิดพังผืดดึงรั้งจอตา ผู้ป่วยมักมีสายตาแย่ลงอย่างมากทั้งจากเลือดออกและจอตาลอก

อาการตามัวอาจเกิดจากการบวมบริเวณจุดภาพชัด (macular edema) ซึ่งเกิดจากน้ำและไขมันรั่วออกจากหลอดเลือด จุดภาพชัดเป็นบริเวณสำคัญที่ใช้ในการมองภาพ ดังนั้นเมื่อเกิดความผิดปกติบริเวณนี้จึงส่งผลต่อการมองเห็นอย่างมาก ในรายที่เป็นรุนแรงหลอดเลือดบริเวณจุดภาพชัดอาจเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดภาวะจุดภาพชัดขาดเลือด (macular ischemia) ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

วิธีตรวจเบาหวานขึ้นตา

ทราบได้อย่างไรว่ามีเบาหวานขึ้นตา

ผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานขึ้นตานั้น อาจไม่รู้สึกว่ามีอาการผิดปกติใดๆ ดังนั้นเมื่อมีอาการตามัว จึงแสดงว่า โรคเบาหวานขึ้นตาเป็นมากแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนควรได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ โดยจะได้รับการหยอดยาขยายรูม่านตาและตรวจจอตาอย่างละเอียด หากพบว่ามีภาวะเบาหวานขึ้นตา แพทย์จะพิจารณาให้คำแนะนำและการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

รักษาเบาหวานขึ้นตาได้อย่างไร

ความผิดปกติที่เกิดจากเบาหวานขึ้นตานั้นไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นสภาพปกติได้ การรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันมุ่งหวังให้โรคไม่ลุกลามไปจากระยะที่เป็นอยู่ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำตาลสะสมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติรวมทั้งการดูแลโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคไตอย่างเหมาะสม สามารถชลอความรุนแรงของโรคได้ การรักษาภาวะเบาหวานขึ้นตาในปัจจุบันมี 3 วิธีคือ

การรักษาด้วยเลเซอร์

เป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาโดยมีข้อบ่งชี้คือ ผู้ป่วยที่มีเบาหวานขึ้นตาในระยะที่มีการสร้างหลอดเลือดใหม่และผู้ป่วยที่มีจุดภาพชัดบวม เลเซอร์จะทำให้หลอดเลือดใหม่ที่ผิดปกติฝ่อลง ส่งผลให้จอตายุบบวมและป้องกันการเกิดเลือดออกในตา การรักษาด้วยเลเซอร์นั้นอาจต้องแบ่งยิงหลายครั้ง เพื่อป้องกันภาวะจอตาบวมจากเลเซอร์ ภาวะแทรกซ้อนจากการักษา โดยเลเซอร์พบได้น้อยมาก หากผู้ป่วยร่วมมือและได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การรักษาด้วยยา

เป็นการรักษาวิธีใหม่โดยการฉีดยาเข้าวุ้นตาโดยยาจะมีคุณสมบัติลดการรั่วของหลอดเลือด และทำให้หลอดเลือดที่เกิดใหม่ฝ่อลง การรักษาโดยวิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดีแต่ฤทธิ์ของยาอยู่ได้ไม่นานและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดยาเข้าวุ้นตาได้แก่ การอักเสบติดเชื้อ เลือดออกในวุ้นตาและการเกิดจอตาลอก ซึ่งมีโอกาสเกิดน้อยมาก

การรักษาด้วยการผ่าตัด

ผู้ป่วยที่มีเลือดออกในวุ้นตาส่วนใหญ่เลือดจะถูกดูดซึมหมดไปเองในระยะเวลา 2-3 เดือน ในรายที่เลือดไม่ถูกดูดซึมหมดไปหรือมีจอตาลอกจากพังผืดดึงรั้ง การผ่าตัดวุ้นตา อาจช่วยป้องกันไม่ให้โรคลุกลามและสามารถซ่อมแซมจอตาที่ลอกให้กลับเข้าที่เดิม แต่การมองเห็นอาจไม่กลับมาเป็นปกติ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยแต่ละราย

ตรวจเบาหวานขึ้นตา

ผู้ป่วยควรรับการตรวจตาเพื่อป้องกันเบาหวานขึ้นตาเมื่อไหร่

ภาวะเบาหวานขึ้นตาสามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วยเครื่องมือการตรวจและการรักษาที่มีในปัจจุบัน ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานทุกคนควรได้รับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยที่สุดปีละ 1 ครั้ง หากแพทย์ตรวจพบความผิดปกติที่เกิดจากเบาหวานขึ้นตา แพทย์จะนัดตรวจติดตามต่อเนื่องหรือพิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสมตามระยะโรคที่ตรวจพบ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยชลอความรุนแรงของโรคได้ นอกจากนั้นแล้วผู้ป่วยเบาหวานที่ตั้งครรภ์ ควรรับการตรวจตาในช่วง 3 เดือนแรก ของการตั้งครรภ์ เนื่องจากระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้ภาวะเบาหวานขึ้นตารุนแรงได้

หากมีข้อสงสัยสามารถทำนัด สอบถามข้อมูลหรือปรึกษากับทีมศูนย์อายุรกรรมต่อมไร้ท่อและเมตรบอลิสม (เบาหวาน) ได้ที่ทุกช่องทางการติดต่อของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

 

ตรวจเบาหวาน รักษาเบาหวาน

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง