ศูนย์สุขภาพจิต

อาคาร E ชั้น 2

วันจันทร์ – วันอาทิตย์
08:00 - 17:00 น.

ศูนย์สุขภาพจิตเป็นสถานบริการที่ให้การดูแลและรักษาด้านสุขภาพจิตแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การบำบัดผู้ป่วยนอก ไปจนถึงการดูแลผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (นอนโรงพยาบาล) โดยมีแนวทางการให้บริการดังนี้

จิตเวชศาสตร์ คือ ศาสตร์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวินิจฉัย บำบัดรักษา ส่งเสริมป้องกัน และศึกษาวิจัยปัญหาด้านจิตใจของบุคคล หรือสุขภาพจิต โดยมีการบำบัดรักษาด้วย ยาบำบัด จิตบำบัด การให้คำปรึกษา และอาจรวมถึงการบำบัดด้วยไฟฟ้า การบำบัดรักษาโดยทั่วไปเป็นการดูแลแบบผู้ป่วยนอกเป็นหลัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรคของแต่ละบุคคล

1. บริการสำหรับผู้ที่ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่ต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต

  • การให้คำปรึกษาและประเมินสุขภาพจิต
  • ตรวจคัดกรองภาวะซึมเศร้า ไบโพลาร์ วิตกกังวล PTSD ฯลฯ
  • ใช้เครื่องมือทางจิตวิทยา เช่น แบบทดสอบทางจิตวิทยา หรือ AI วิเคราะห์พฤติกรรม

2. การบำบัดทางจิตวิทยา (Psychotherapy & Counseling)

  • จิตบำบัดรายบุคคลหรือกลุ่ม เช่น CBT (Cognitive Behavioral Therapy)
  • ดนตรีบำบัด หรือการทำสมาธิ

3. การรักษาด้วยยา (Medication Management)
4. โปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพจิต (Mental Health Rehabilitation Program) กิจกรรมบำบัด
5. สายด่วนสุขภาพจิต โทรศัพท์ให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ดูแลในหอผู้ป่วยจิตเวช โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา และนักกิจกรรมบำบัด นักดนตรีบำบัดให้บริการ เฝ้าระวังภาวะอารมณ์และพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น

คลินิกแสงตะวัน ทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติดและฟื้นฟูจิตใจ
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเข้าใจถึงความยากลำบากของผู้ที่เผชิญกับปัญหาการเสพติดและปัญหาสุขภาพจิต เราจึงได้จัดตั้ง “คลินิกแสงตะวัน” สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจาก กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข (ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 178) ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2545 โดยให้บริการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดและดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างครบวงจร ทั้งแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน บำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด โปรแกรมบำบัดที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลิกใช้สารเสพติดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

บำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด

  • โปรแกรมบำบัดที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลิกใช้สารเสพติดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  • การดูแลโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านยาเสพติดที่มีประสบการณ์
  • การให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางจิตใจ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วย

ดูแลผู้ป่วยจิตเวช

  • การวินิจฉัยและรักษาโรคทางจิตเวชต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคไบโพลาร์
  • การให้คำปรึกษาและบำบัดทางจิตใจ โดยนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • การดูแลแบบองค์รวม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลิกใช้สารเสพติดได้โดยไม่เกิดอาการทรมานและภาวะแทรกซ้อน
  • ลดภาระของสังคมและครอบครัวที่เกิดจากการกระทำของผู้เสพสารเสพติด
  • ฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปรกติ

โรคจิตเวช คือ เป็นความผิดปกติที่ส่งผลกระทบต่อความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของบุคคล ทำให้เกิดความทุกข์ทรมานหรือความบกพร่องในชีวิตประจำวัน อาการอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงและส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วย

1. ประเภทของโรค

  • โรคซึมเศร้า (Depressive Disorders) อารมณ์ซึมเศร้า ขาดความสนใจหรือความสุขในกิจกรรมต่าง ๆ, นอนไม่หลับหรือหลับมากเกินไป,ความรู้สึกผิดและไร้ค่า,มีความคิดเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
  • โรควิตกกังวล (Anxiety Disorders) รู้สึกกังวลหรือกลัวอย่างมาก แม้ไม่มีเหตุผลชัดเจน ใจสั่น เหงื่อออก ตัวสั่น,หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล,ปัญหาการนอนและความสามารถในการมีสมาธิ
  • โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) มีช่วงอารมณ์ขึ้นสูง (mania) และช่วงอารมณ์ซึมเศร้า,ช่วง mania: คึกคักเกินไป ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คิดเร็ว พูดเร็ว,ช่วงซึมเศร้า: ขาดพลังงาน สิ้นหวัง ไม่มีสมาธิ
  • โรคจิตเภท (Schizophrenia) อาการประสาทหลอน (เห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง) ความคิดหลงผิดและไม่เป็นเหตุเป็นผล,พฤติกรรมและคำพูดที่ไม่สอดคล้องกัน,ขาดความสามารถในการเข้าสังคมหรือทำงานประจำ
  • โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder, OCD) มีความคิดซ้ำ ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ (Obsession),มีพฤติกรรมที่ต้องทำซ้ำ ๆ เพื่อลดความกังวล (Compulsion),ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและกิจวัตรประจำวัน
  • โรคเครียดหลังเหตุการณ์ร้ายแรง (Post-Traumatic Stress Disorder, PTSD) ฝันร้ายและภาพเหตุการณ์สะเทือนใจซ้ำ ๆ,หลีกเลี่ยงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายแรง,อารมณ์แปรปรวนและระแวดระวังมากผิดปกติ
  • โรคสมาธิสั้น (ADHD) ขาดสมาธิในการทำกิจกรรมต่าง ๆ,อยู่ไม่นิ่งและมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น,มีปัญหาในการจัดการเวลาและความรับผิดชอบและนอนไม่หลับ

2. สาเหตุโรคทางจิตเวชเกิดจากปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท ได้แก่

  • พันธุกรรม หากสมาชิกในครอบครัวมีประวัติโรคทางจิตเวช โอกาสที่บุคคลจะเป็นโรคเพิ่มขึ้น
  • ความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง สารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) โดพามีน (Dopamine) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม
  • ปัจจัยทางจิตสังคม ความเครียดจากการทำงาน ปัญหาครอบครัว หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจ
  • ประสบการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ เช่น การถูกล่วงละเมิดทางร่างกายหรือจิตใจ อุบัติเหตุ หรือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
  • การใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ มีผลต่อการทำงานของสมองและอาจกระตุ้นให้เกิดหรือทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น
  • ปัจจัยทางชีวภาพและฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่นหรือสตรีที่ตั้งครรภ์ อาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรืออารมณ์แปรปรวน

3. ปัจจัยเสี่ยง หรือ กลุ่มเสี่ยง และผลนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ

  • ผู้ที่เผชิญกับความเครียดเรื้อรังหรือเหตุการณ์สะเทือนใจผู้ป่วยบางรายอาจมีความคิดและพฤติกรรมฆ่าตัวตาย ซึ่งต้องได้รับการดูแลและช่วยเหลือโดยด่วน
  • ผู้ที่ใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก บางคนอาจหันไปใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อหลีกเลี่ยงอาการทางจิตเวช ซึ่งจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น
  • ผู้ที่มีภาวะทางกาย เช่น โรคเรื้อรัง หรือภาวะทุพโภชนาการ โรคจิตเวชบางประเภท เช่น โรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน
  • บุคคลที่ขาดการสนับสนุนทางสังคมและครอบครัว ความสัมพันธ์ที่บกพร่อง ผู้ป่วยอาจมีปัญหาในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ทำให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัวและสังคม

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการของโรคอาจกำเริบและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆการตรวจวินิจฉัย

4. การรักษา

การรักษาโรคทางจิตเวชสามารถแบ่งออกเป็นหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทและระดับความรุนแรงของโรค ได้ดังนี้

4.1 การใช้ยา

  • ยาต้านเศร้า (Antidepressants): ใช้รักษาโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล โดยช่วยปรับสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และนอร์อิพิเนฟริน (Norepinephrine)
  • ยารักษาโรคจิต (Antipsychotics): ใช้ในผู้ป่วยโรคจิตเภทหรือไบโพลาร์ที่มีอาการทางจิต เช่น ประสาทหลอนหรือหลงผิด
  • ยาคลายกังวล (Anxiolytics): ใช้บรรเทาอาการวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับ แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจทำให้เกิดการพึ่งพายา
  • ยาควบคุมอารมณ์ (Mood Stabilizers): ใช้รักษาโรคไบโพลาร์ เพื่อป้องกันอารมณ์แปรปรวนทั้งภาวะซึมเศร้าและแมเนีย

4.2 จิตบำบัด (Psychotherapy)

  • การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญา (Cognitive Behavioral Therapy, CBT): ช่วยให้ผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมที่เป็นปัญหา
  • การบำบัดแบบสนับสนุน (Supportive Therapy): ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความเครียดและสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • อื่นๆ เช่น จิตพลวัตหรือจิตวิเคราะห์,EMDRการบำบัดรักษาบาดแผลทางใจ ใช้ในการทำความเข้าใจปมปัญหาภายในจิตใจที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรม ตัวอย่าง PTSD,TRAUMA เป็นต้น

4.3 การรักษาอื่น ๆ

  • ดนตรีบำบัด Music therapy
  • การกระตุ้นสมองด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (Transcranial Magnetic Stimulation, TMS): ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม

5. การป้องกันโรคทางจิตเวช

การป้องกันโรคทางจิตเวชสามารถทำได้โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น

  • การดูแลสุขภาพจิต ฝึกฝนการควบคุมอารมณ์และการจัดการความเครียด ฝึกหายใจลึก ๆ หรือทำสมาธิเพื่อลดความวิตกกังวล หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ พูดคุยและเปิดใจกับคนที่ไว้ใจได้เกี่ยวกับปัญหาหรือความเครียดที่เผชิญ
  • การดูแลสุขภาพกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน วิ่ง โยคะ หรือว่ายน้ำ ,รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีนที่มีคุณภาพ นอนหลับให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง
  • การเสริมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อม ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ให้การสนับสนุน มีงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่สร้างความผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความเครียดสูง

6. การฟื้นฟูสุขภาพจิต Rehabilitation

การฟื้นฟูสุขภาพจิตเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากการรักษา โดยรวมถึง การฟื้นฟูทางร่างกายด้วยการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายและลดความเครียด ,ปรับเปลี่ยนโภชนาการให้เหมาะสมกับสุขภาพจิต,การฟื้นฟูทางจิตใจ โดยการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนหรือการให้คำปรึกษาจากนักจิตวิทยา ฝึกฝนทักษะในการรับมือกับความเครียด หรือการฟื้นฟูทางสังคม คือ การกลับไปทำงานหรือเรียนหนังสือตามปกติ ,การเข้าร่วมกิจกรรมสังคมเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และการเข้าร่วมกิจกรรมดนตรีบำบัดหรือกิจกรรมศิลปะบำบัดเพื่อเสริมสร้างความสุข

7. Technology (Equipment/Investigate) เทคโนโลยีทางการแพทย์ (เครื่องมือ การวินิจฉัย)

การรักษาโรคทางจิตเวชในปัจจุบันไม่ได้อาศัยเพียงแค่ยาและจิตบำบัด แต่มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา การกระตุ้นสมองด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ใช้สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อยาหรือการบำบัดแบบดั้งเดิม

  • TMS (Transcranial Magnetic Stimulation) — การกระตุ้นสมองด้วยสนามแม่เหล็ก ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระตุ้นบริเวณสมองที่เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้าหรือโรคทางจิตเวชที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม
  • การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูง(HBOT)กับโรคทางจิตเวช—ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเนื่องจากการทำงานของเซลล์ประสาทขึ้นอยู่กับระดับออกซิเจนในสมอง การบำบัดด้วยออกซิเจนแรงดันสูงจึงถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการรักษาโรคทางจิต ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นในเลือดช่วยปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่ได้รับผลกระทบจากระดับคอร์ติซอล และช่วยปรับสมดุลกิจกรรมของคลื่นสมอง ทำให้สารเคมีในสมองสมดุล
  • ปัญหาด้านสมาธิ และความจำ สภาวะบกพร่องด้านเชาวน์ปัญญา
  • โรคเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร
  • ความผิดปกติทางสุขภาพจิต
  • ความถนัดในเด็ก และรูปแบบการเรียนรู้
  • การพัฒนาการและพฤติกรรมในเด็ก/ภาวะออทิสซึม
  • บริการให้คำปรึกษาบำบัดรักษา ปัญหาด้านความจำ
  • ปัญหาในการนอน นอนไม่หลับ
  • โรคซึมเศร้า
  • ปัญหาด้านความวิตกกังวล
  • โรคเครียด โรควิตกกังวล
  • โรคซึมเศร้า โรคอารมณ์แปรปรวนและปัญหาทางอารมณ์
  • โรคทางความคิด
  • โรคประสาท กลุ่มอาการย้ำคิดย้ำทำ
  • โรคทางกายมีสาเหตุจากปัญหาทางจิตใจ
  • อาการนอนไม่หลับ
  • ปวดศีรษะ โดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
  • ปัญหาในการปรับตัว ปัญหาด้านบุคลิกภาพ
  • ปัญหาการใช้สารเสพติด
  • ปัญหาครอบครัว
  • ปัญหาพฤติกรรมปัญหาเรื่องเพศ
  • ปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุทางด้านร่างกาย
  • ความสามารถด้านเชาวน์ปัญญา กระบวนการคิด ความจำ และการเรียนรู้
  • การประเมิน EQ ความสามารถของบุคคลเชิงระบบประสาทจิตวิทยา
  • การทดสอบบุคลิกภาพ ความฉลาดทางอารมณ์
  • การทดสอบทางจิตวิทยา สุขภาพจิต และบุคลิกภาพพื้นฐาน
  • บุคลิกภาพและรูปแบบการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

นพ. ธีรเจต ลีลาพากเพียร
จิตเวชศาสตร์
นพ. ภัทร พณนันท์
จิตเวชศาสตร์
นพ. สมชาย มาลสุขุม
จิตเวชศาสตร์
นพ. อานุภาพ ปภาพันธุ์
จิตเวชศาสตร์
พญ. กษิรมาต มูลคำ
จิตเวชศาสตร์
พญ. วรงค์ สิทธิศรัณย์กุล
จิตเวชศาสตร์
พญ. สุขสม โสภณอุดมทรัพย์
จิตเวชศาสตร์
พญ. เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์
จิตเวชศาสตร์