อาการปวดหัวพบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนทำงานในยุคนี้ ปวดบ่อยจนชิน จนกลายเป็นความไม่ใส่ใจตนเอง แต่คุณรู้หรือไม่การปวดหัวบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคเนื้องอกในสมองได้
เนื้องอกในสมอง
เป็นเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตจากเซลล์ผิดปกติในสมอง หรือบริเวณใกล้เคียงสมองรวมทั้งเนื้องอกจากอวัยวะอื่นๆในร่างกายที่แพร่กระจายไปที่สมอง มีผลกระทบต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท โดยมีอาการทางร่างกายแตกต่างกันไป เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพไม่ชัด มีปัญหาด้านการพูดและการเคลื่อนไหว ถึงขั้นมีอาการรุนแรงจนเกิดการชัก หรือเป็นอัมพาต เพราะก้อนเนื้องอกไปกดทับสมองส่วนที่ควบคุมการทำงานในส่วนต่างๆ ยังไม่มีการยืนยันถึงสาเหตุการเกิดเนื้องอกในสมองว่าเกิดได้อย่างไร แต่อาจเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมในเซลล์สมอง กรรมพันธุ์ อายุ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต
4 ระดับความรุนแรงของเนื้องอกในสมอง
ระดับที่ 1 : เป็นก้อนเนื้อธรรมดา เติบโตช้า และยังไม่มีการแพร่กระจาย สามารถรักษาให้หายได้ และอาจไม่กลับมาเป็นซ้ำ
ระดับที่ 2 : เนื้องอกระดับปานกลาง เนื้องอกแพร่กระจายอยู่ในเนื้อเยื่อสมอง ยังไม่เป็นเนื้อร้าย สามารถรักษาได้ เนื้องอกเจริญเติบโตช้า ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายปีแต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้บ้าง
ระดับที่ 3 : เป็นก้อนเนื้อที่เป็นเซลล์มะเร็ง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูง
ระดับที่ 4 : เป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรง เนื้องอกเติบโตและแพร่กระจายเร็ว ทำให้เสียชีวิตในเวลาอันสั้น
อาการที่สามารถสังเกตได้ว่าอาจเป็นโรคเนื้องอกในสมอง
- ปวดศีรษะบ่อยๆ หรือปวดเรื้อรัง อาจปวดรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆหรือปวดศีรษะกลางคืนระหว่างที่นอนหลับ
- คลื่นไส้ อาเจียน ง่วงซึม
- เห็นภาพเบลอ หรือภาพซ้อน
- มีปัญหาในการได้ยิน การพูด สื่อสาร พูดจาติดขัด
- มีปัญหาในการเคลื่อนไหว การทรงตัว
- แขนขาอ่อนแรง หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก
- มีปัญหาด้านความจำ สับสบ มึนงง
- มีอาการชัก ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประวัติการชักมาก่อน
การตรวจวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมอง
เมื่อมีอาการที่สงสัยว่าอาจมีเนื้องอกในสมอง ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุ โดยเบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ด้วยเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ในบริเวณต่างๆ อย่างละเอียด หากพบว่ามีเนื้องอกในสมอง หรือเนื้อเยื่อผิดปกติ แพทย์อาจทำการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้องงอกออก หรือทำการเจาะเอาชิ้นเนื้อออกตรวจในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้องอกจริงหรือไม่ เพื่อส่งตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อว่าเป็นเนื้องอกชนิดใด รุนแรงระดับไหน เพื่อวางแผนทำการรักษาต่อไป
การรักษาโรคเนื้องอกในสมอง
- การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักในเนื้องอกสมองส่วนใหญ่ ทั้งระดับ1 – 4 แพทย์จะสามารถทำการผ่าตัด ซึ่งมี 2 วิธีคือ การผ่าเปิดกระโหลก และการผ่าตัดส่องกล้อง (ทำได้เฉพาะเนื้องอกบางตำแหน่งเท่านั้น) เนื่องจากเนื้องงอกมีหลายชนิด และสามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในสมอง การผ่าตัดจึงมีวิธีการ ผลลัพธ์และภาวะแทรกซ้อนแตกต่างกันได้มาก แต่หลักการโดยรวมคือ การพยายามเอาเนื้องอกออกให้ได้มากที่สุดโดยพยายามให้เกิดผลกระทบ หรือความเสียหายต่อสมองและเส้นประสาทน้อยที่สุด ไปในเวลาเดียวกัน
- การฉายรังสี กรณีที่ไม่สามารผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกได้ หรือเอาออกได้เพียงบางส่วน หรือเป็นก้อนเนื้อร้ายที่เป็นเซลล์มะเร็ง แพทย์จะใช้วิธีฉายแสงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งนั้นๆ
- การบำบัดด้วยเคมี ใช้ยาเคมีบำบัดรักษาเป็นการให้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง แพทย์จะประเมินว่าจะใช้วิธีไหน ซึ่งมีทั้งแบบรับประทาน และฉีดเข้าเส้นเลือด การให้ยาเคมีบำบัดเป็นการรักษาเสริม เพิ่มเติมของการฉายรังสีซึ่งจะใช้ได้ในเนื้องงอกบางชนิดเท่านั้น
เนื้องอกในสมองสามารถรักษาหายขาดได้หรือไม่
เนื้องอกสมองบางชนิด รักษาให้หายได้ แต่บางชนิดอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกชนิดใด การตรวจพบตั้งแต่ช่วงแรกของโรค หรือช่วงที่เนื้องอกมีขนาดเล็กส่งผลโดยตรงต่อโอกาสสำเร็จและภาวะแทรกซ้อนของการรักษา การตรวจโดยเร็วจึงมีความสำคัญมาก แม้ว่าโรคเนื้องอกในสมองจะไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แท้จริง และป้องกันไม่ได้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระตุ้นทำให้เกิดเซลล์มะเร็งได้ เช่น การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ พยายามดูแลตนเองให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงความเครียด และตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจสุขภาพสมองและระบบประสาทอย่างน้อยปีละครั้ง ก็จะทำให้คุณมีชีวิตที่มีคุณภาพ และยืนยาว
บทความโดย ศูนย์สมองและระบบประสาท
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.