Skip to content

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): รู้ทันอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกัน

โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร มีกี่ประเภท

โรคหลอดเลือดสมองคืออะไร ?

โรคหลอดเลือดสมอง สโตรก (Stroke) หรือคนไทยอาจคุ้นชินกับคำว่า อัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งเป็นอาการอย่างหนึ่งที่สังเกตได้ง่าย อัมพฤกษ์หมายถึงอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงปานกลาง ตามัวครึ่งตา เสียการทรงตัวชั่วขณะ แต่หากกล้ามเนื้อบางส่วนของร่างกายไม่สามารถขยับได้เลย สูญญเสียการทรงตัว พูดไม่ได้ กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานไม่เท่ากัน อาการเหล่านี้เป็นอาการรุนแรงและนิยมเรียกว่า อัมพาต

ทั้งนี้ อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นหนึ่งในอาการของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลาย ๆ ปัจจัย แต่สาเหตุหลัก ๆ มาจากทางเดินเลือดมีปัญหา เช่น หลอดเลือดในสมองตีบ อุดตัน หรือฉีกขาด เมื่อเลือดไม่สามารถมาเลี้ยงสมองได้ดีจะทำให้เนื้อเยื่อในสมองขาดเลือดและถูกทำลาย ส่งผลกระทบให้สูญเสียความสามารถในการควบคุมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย

อันตรายจากโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลัน

โรคหลอดเลือดสมองเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องเข้ารับการรักษาให้เร็วที่สุด เพราะอาการมักเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและกะทันหัน การสังเกตอาการโรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉียบพลันสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ด้วยหลักการ BE FAST หมายถึง

  • B – Balance วิงเวียนศีรษะ ทรงตัวไม่ได้
  • E – Eyes มองเห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัวข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง
  • F – Face ปากเบี้ยว หน้าเบี้ยวครึ่งหน้าด้านใดด้านหนึ่ง
  • A – Arm แขนขาอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่ง
  • S – Speech พูดติดขัด พูดไม่ชัด เปล่งเสียงลำบาก นึกคำพูดไม่ออก
  • T – Time รีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

หากคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้หรือถ้าเกิดขึ้นกับเราเอง ควรรีบขอความช่วยเหลือและไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เนื่องจากเวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีคือช่วงเวลาที่เซลล์สมองค่อย ๆ เสียหายมากขึ้น

โรคหลอดเลือดในสมองเกิดจากอะไร ชนิดโรคหลอดเลือดสมอง

สาเหตุและชนิดของโรคหลอดเลือดสมอง

โดยทั่วไปมีการจำแนกชนิดของโรคหลอดเลือดสมองออกเป็น 2 ชนิด คือ หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke) และหลอดเลือดสมองแตก (hemorrhagic stroke) และในผู้ป่วยบางอาจเกิดการอุดตันเพียงชั่วคราว (Transient ischemic attack) แต่ละชนิดมีสาเหตุที่แตกต่างกันดังนี้

หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic stroke)

เป็นชนิดโรคหลอดเลือดสมองที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากผนังหลอดเลือดหนา ตีบแคบ จนกั้นทางเดินเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลดลงอย่างรวดเร็วหรือเกิดภาวะสมองขาดเลือด หลอดเลือดตีบหรืออุดตันมักมีสาเหตุคล้ายกับโรคหลอดเลือดหัวใจ คือการไขมันสะสมในเลือด ลิ่มเลือด หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ที่เดินทางไปกับเลือดจากหัวใจ และตกค้างอยู่ในหลอดเลือดสมอง หรืออาจเกิดจากลิ่มเลือดหลุดจากบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ส่วนมากเป็นลิ่มเลือดจากหัวใจ หลุดมาอุดตันหลอดเลือดสมอง

หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic stroke)

ภาวะเลือดออกในสมองจากหลอดเลือดในสมองแตก รั่ว หรือ ฉีกขาด เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยดังนี้

  • ความดันโลหิตสูงมากกว่าระดับที่ควบคุมได้
  • หลอดเลือดในสมองแตกจากการอุดตัน
  • ผลข้างเคียงการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด
  • เกิดเส้นเลือดโป่งพองในบริเวณผนังหลอดเลือดไม่แข็งแรง
  • การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรุนแรง
  • ผนังหลอดเลือดในสมองเปราะ (Cerebral amyloid angiopathy) จากการสะสมและตกตะกอนของโปรตีน
  • หลอดเลือดสมองแตกจากโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ AVM (Arteriovenous Malformations)

หลอดเลือดสมองตีบชั่วคราว TIA (Transient ischemic attack)

ภาวะหลอดเลือดสมองตีบชั่วคราว TIA (ที-ไอ-เอ) บางครั้งถูกเรียกว่า “Ministroke” มักส่งผลกระทบให้สมองขาดเลือดชั่วคราวและหายได้เองภายใน 24 ชม. TIA มีสาเหตุคล้ายกับหลอดเลือดสมองอุดตัน (Ischemic stroke) คือเกิดจากลิ่มเลือดหรือสิ่งแปลกปลอมในเลือดตกค้างในหลอดเลือดสมองจนทำให้ขวางทางไหลของเลือดแต่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวไม่ได้ส่งผลกระทบยาวนานหรือถาวร

อย่างไรก็ตามการที่เป็นหลอดเลือดสมองตีบเพียงชั่วคราวและอาการดีขึ้น ไม่ได้แปลปลอดภัยดีเสมอไป ที่สำคัญหากไม่ได้รับการรักษายังเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองอุดตันมากขึ้น ดังนั้นหากมีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมองแม้จะเพียงชั่วคราว ยังต้องพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

โรคหลอดเลือดในสมองมีอาการอย่างไร

ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง

ความผิดปกติของระบบประสาทที่เกิดจากหลอดเลือดสมองอาจเป็นได้ทั้งหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้นเช่น

  • อายุที่มากขึ้น
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคหัวใจ
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • เบาหวาน
  • ความเครียด
  • โรคอ้วน

ดูแลตัวเองป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

แม้โรคหลอดเลือดสมองจะพบบ่อยในคนอายุมาก (มากกว่า 55 ปี) แต่โรคสามารถเกิดขึ้นกับคนทุกเพศทุกวัย เราจึงควรเรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเองด้วยการปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

ปัจจุบันเราสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ได้โดยการหมั่นสังเกตปัจจัยเสี่ยง และควบคุมหรือรักษาปัจจัยเสี่ยงนั้นให้ดีขึ้น  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้รู้ว่าเรามีปัจจัยเสี่ยงโรคอะไร มีความผิดปกติอะไรในส่วนใดของร่างกาย

ไม่เพียงเท่านี้ การปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตยังช่วยลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ รวมถึง ควบคุมระดับความดันโลหิตสูงให้คงที่ด้วย เช่น

  • ออกกำลังกาย
  • งดกินเค็มเลี่ยงรสจัด
  • กินอาหารไขมันต่ำ
  • ลดการบริโภคแอลกอฮอล์

หากมีอาการผิดปกติ เช่น แขนอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดลำบาก ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด การตรวจวินิจฉัยอาจรวมไปถึงการตรวจโรคหัวใจ เพื่อตรวจหาความเสี่ยง เพราะอาจเกิดลิ่มเลือดในหัวใจหลุดเข้าไปอุดตันในหลอดเลือดสมองได้

หากมีข้อสงสัยสามารถทำนัด สอบถามข้อมูลหรือปรึกษากับทีมศูนย์สมองและระบบประสาท ได้ที่ทุกช่องทางการติดต่อของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา


Reference,

Johns Hopkins Medicine. (n.d.). Effects of Stroke. Retrieved October 20, 2023, from https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/stroke/effects-of-stroke

Cleveland Clinic. (2022). Stroke. Retrieved October 20, 2023, from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/5601-stroke

Mayo Clinic. (n.d.). Stroke: Symptoms & Causes. Retrieved October 20, 2023, from https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/stroke/symptoms-causes/syc-20350113

สุขภาพสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภัยสุขภาพร้ายแรงที่ต้องรู้ทัน! เรียนรู้สาเหตุ อาการ และวิธีป้องกัน เพื่อดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคร้ายนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคหลอดเลือดสมอง คืออะไร?

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ ที่เรียกกันว่า สโตรก (Stroke) คือภาวะที่หลอดเลือดในสมองมีปัญหา เช่น ตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ จนทำให้เนื้อเยื่อสมองเสียหายอย่างรวดเร็ว อาการของโรคหลอดเลือดสมอง ที่พบบ่อยคือการสูญเสียความสามารถในการควบคุมร่างกาย เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ได้ หรือสูญเสียการทรงตัว

โรคนี้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของโลก และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจส่งผลให้เกิดความพิการถาวรหรือเสียชีวิตได้

ประเภทของโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke)
    เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากไขมัน ลิ่มเลือด หรือสิ่งแปลกปลอมอุดตันหลอดเลือดในสมอง ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง
  2. หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke)
    เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดออกในเนื้อสมอง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความดันโลหิตสูงหรือการบาดเจ็บ
  3. หลอดเลือดสมองตีบชั่วคราว (Transient Ischemic Attack – TIA)
    หรือที่เรียกว่า “มินิสโตรก” เป็นภาวะที่การไหลเวียนของเลือดในสมองหยุดชั่วคราว แต่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 24 ชั่วโมง

โรคหลอดเลือดในสมองเกิดจากอะไร ชนิดโรคหลอดเลือดสมอง

อาการโรคหลอดเลือดสมอง: สัญญาณที่ต้องระวัง

อาการของ โรคหลอดเลือดสมอง มักเกิดขึ้นทันทีและรุนแรง ผู้ป่วยหรือคนใกล้ชิดควรสังเกตด้วยหลักการ BE FAST เพื่อรับมืออย่างรวดเร็ว

  • B – Balance: สูญเสียการทรงตัว วิงเวียนศีรษะ
  • E – Eyes: มองเห็นภาพซ้อน หรือตาพร่ามัว
  • F – Face: ใบหน้าเบี้ยว หรือปากตกข้างใดข้างหนึ่ง
  • A – Arms: แขนหรือขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง
  • S – Speech: พูดไม่ชัด พูดติดขัด
  • T – Time: เวลาเป็นสิ่งสำคัญ หากเกิดอาการควรรีบไปโรงพยาบาลทันที

สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมองมักเกิดจากปัจจัยเสี่ยงดังนี้
    • ความดันโลหิตสูง
    • โรคเบาหวาน
    • การสูบบุหรี่
    • โรคหัวใจ
    • การดื่มแอลกอฮอล์
  • ความอ้วน
  • ความเครียด

วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

การดูแลสุขภาพและปรับพฤติกรรมสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองได้ เช่น

  1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  2. ลดการบริโภคอาหารเค็มและไขมันสูง
  3. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  4. ควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือด
  5. หมั่นตรวจสุขภาพประจำปี

โรคหลอดเลือดสมอง ไม่เพียงเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ แต่ยังสามารถป้องกันได้ หากเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

บทสรุป

โรคหลอดเลือดสมอง หรือ สโตรก เป็นโรคร้ายแรงที่ต้องรับมืออย่างรวดเร็ว การรู้จักอาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันจะช่วยให้เราสามารถลดความเสี่ยงและรักษาชีวิตได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ดังนั้น หากพบสัญญาณอันตราย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดสมอง สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา

พญ.สิริณัฐ พึ่งเจริญ
บทความโดย:
 
 
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา
 
ศูนย์สมองและระบบประสาท  โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
สุขภาพสมอง

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง