มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงและเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิงทั่วโลก แม้ในผู้ชายก็สามารถพบมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน แต่พบได้น้อยกว่ามาก ประมาณ 90% ของมะเร็งเต้านมเริ่มจากเซลล์ที่เติบโตผิดปกติในท่อน้ำนม และหากตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น การรักษาจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้สูงยิ่งขึ้น ทำให้การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ซึ่งบางปัจจัยเราสามารถควบคุมได้ ในขณะที่บางปัจจัยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนี้
- อายุ ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีจะมีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเกิดมะเร็งเต้านม
- ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่ง มีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมที่อีกข้างเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า
- ประวัติการเป็นมะเร็งรังไข่ การที่เคยเป็นมะเร็งรังไข่จะทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการเป็นมะเร็งเต้านม เนื่องจากมีการสัมผัสฮอร์โมนที่สัมพันธ์กับมะเร็งทั้งสองประเภท
- ประวัติครอบครัว หากมีคนในครอบครัว เช่น แม่ หรือพี่สาว เป็นมะเร็งเต้านม ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้
- การกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 ยีนที่มีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ หากมีประวัติการกลายพันธุ์จะทำให้เสี่ยงสูงขึ้น
- การสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น การใช้ยาคุมกำเนิดในระยะยาว หรือการไม่มีการตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตร ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
- ปัจจัยอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
อาการและสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม
ในระยะเริ่มแรก มะเร็งเต้านมอาจไม่มีอาการแสดงใดๆ จึงมักตรวจพบจากการตรวจเต้านมประจำปีโดยแพทย์ หรือการทำแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ แต่หากมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบ
- คลำได้ก้อนในเต้านมหรือบริเวณรักแร้ที่มีการคลำพบก้อนที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็ง
- หัวนมบุ๋มหรือมีน้ำเหลือง/เลือดไหล หากมีเลือดหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม ซึ่งไม่เป็นปกติ
- ผื่นหรือผิวเต้านมผิดปกติ เต้านมที่มีผื่นแดง ร้อน หรือคล้ายผิวส้ม
- การเปลี่ยนแปลงของรูปทรงเต้านม หากเต้านมผิดรูปหรือขนาดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- อาการปวดที่เต้านม อาการปวดเต้านมที่มีความรุนแรงหรือความปวดที่เกิดขึ้นมากกว่าปกติ
การตรวจและการป้องกันมะเร็งเต้านม
การตรวจมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พบโรคในระยะเริ่มแรก ซึ่งมีโอกาสรักษาได้สูงกว่า วิธีการตรวจที่แนะนำได้แก่
- การตรวจแมมโมแกรม การตรวจแมมโมแกรมหรือการทำเอกซเรย์เต้านม ช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของเต้านมได้
- การตรวจอัลตราซาวด์ ใช้เพื่อดูภาพของเนื้อเยื่อเต้านมและช่วยในการตรวจจับก้อนที่อาจไม่สามารถเห็นจากแมมโมแกรม
- การตรวจคลำเต้านม โดยการตรวจด้วยตนเองทุกเดือนหรือการตรวจโดยแพทย์
การป้องกันมะเร็งเต้านมสามารถทำได้โดยการรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเช่นการดื่มแอลกอฮอล์หรือการสูบบุหรี่ นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่มีความเสี่ยงสูงในผู้หญิง และสามารถพบได้ในผู้ชาย การตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกมีโอกาสสูงในการรักษาให้หายขาด การรับรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงและอาการของโรค รวมถึงการทำการตรวจคัดกรองเป็นประจำจะช่วยให้ผู้หญิงสามารถป้องกันและรักษามะเร็งเต้านมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น