Skip to content

สังเกตให้ไว! อาการของคนท้อง เริ่มสังเกตุได้ตั้งแต่ประจำเดือนขาด 1 สัปดาห์

การตั้งครรภ์คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตผู้หญิง และหลายคนอาจไม่ทันรู้ตัวว่าได้เริ่มต้นการเป็น “คุณแม่” แล้ว โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน หลายคนจึงมองข้าม อาการของคนท้อง อาการเตือนภายในสัปดาห์แรกที่ขาดประจำเดือน ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ความจริงแล้วร่างกายได้ส่งสัญญาณเตือนผ่านกลไกต่างๆ ตั้งแต่วันแรกที่ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูก

อาการของคนท้อง อาการเตือน เริ่มท้องได้ 1 สัปดาห์ พร้อมอธิบายอย่างละเอียดถึง ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าแท้จริงแล้วมันคือ “สัญญาณเริ่มตั้งครรภ์” ที่สำคัญ 

อาการของคนท้อง อาการเตือน เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ มีที่มาอย่างไร?

หลังจากไข่ได้รับการผสม (โดยอสุจิ) แบ่งเป็นตัวอ่อนและเคลื่อนตัวเข้าสู่มดลูก โดยจะฝังตัวลงในผนังมดลูกเพื่อเริ่มต้นการตั้งครรภ์ กระบวนการนี้เรียกว่า การฝังตัวของตัวอ่อน หรือ “Implantation” ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วง 6-10 วันหลังไข่ตก

ในช่วง สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายเริ่มปล่อยฮอร์โมนชื่อ hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งเป็น ฮอร์โมนการตั้งครรภ ที่จะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายระบบของร่างกาย แม้ยังไม่ถึงเวลาตรวจพบจากชุดตรวจปัสสาวะ แต่คุณสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้จากสิ่งต่อไปนี้ 

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจเริ่มตั้งครรภ์แล้ว

  1. มีเลือดล้างหน้าเด็ก หรือ ตกขาวปนเลือด
    เกิดจากตัวอ่อนฝังตัวในผนังมดลูก อาจทำให้มีเลือดออกเล็กน้อย กะปริบกะปรอย เป็นสีชมพูอ่อน หรือสีน้ำตาล หรือสีสนิม และไม่มีลิ่มเลือด
  2. รู้สึกปวดท้องหน่วงๆ หรือเจ็บท้องคล้ายปวดประจำเดือน
    อาการนี้เกิดจากมดลูกเริ่มปรับตัวมีเลือดมาเลี้ยงเยอะขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุโพรงมดลูก
  3. หน้าอกบวม เจ็บ และหัวนมเปลี่ยนสี
    เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้เต้านมมีความไวต่อการสัมผัสมากขึ้น
  4. รู้สึกอ่อนเพลีย ปวดหัว เวียนศีรษะ หรือ ง่วงบ่อย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
    ร่างกายผลิต ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ มากขึ้น ส่งผลต่อระดับพลังงานและระบบประสาท
  5. ไวต่อกลิ่น คลื่นไส้ หรือเบื่ออาหารเล็กน้อย
    หลายคนเริ่มมี อาการของคนท้อง อาการเตือน ตั้งแต่เริ่มขาดประจำเดือน ด้วยอาการคล้ายเมารถเล็กน้อย โดยยังไม่รุนแรงเหมือนช่วงไตรมาสแรก
  6. อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อยหลังไข่ตก
    หากคุณวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวัน จะพบว่าอุณหภูมิลดต่ำลงเหมือนรอบเดือนปกติหลังไข่ตก 

ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่คุณอาจไม่รู้ว่าคือสัญญาณเริ่มตั้งครรภ์

แม้ว่าอาการบางอย่างจะดู “เล็กน้อย” หรืออาจคล้ายช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่ในทางการแพทย์ถือว่าเป็น สัญญาณเริ่มตั้งครรภ์ ที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามเลย

1. การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและกลิ่นตัว

เนื่องจากระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวแห้ง ผิวไวต่อแสง หรือแม้แต่กลิ่นตัวเปลี่ยนไปได้ ซึ่งเป็นอาการที่หลายคนไม่ทันสังเกต

2. อารมณ์แปรปรวนโดยไม่มีสาเหตุ

การเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาท ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด ซึมเศร้า หรืออยากร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล

3. ท้องอืด เรอบ่อย หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร

แม้ไม่ใช่สัญญาณที่ทุกคนมี แต่เป็นหนึ่งใน อาการของคนท้อง อาการเตือนเริ่มท้อง ที่เกิดจากระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง

4. ปัสสาวะบ่อยขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน

ฮอร์โมน hCG จะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังไต ทำให้คุณรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ 

ตรวจสอบความมั่นใจ ว่าคุณเริ่มตั้งครรภ์จริงหรือไม่

หากคุณเริ่มสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นอาจเป็น สัญญาณการเริ่มตั้งครรภ์ ขอแนะนำขั้นตอนต่อไปนี้

  1. สังเกตอุณหภูมิร่างกาย: ถ้าอุณหภูมิสูงต่อเนื่องจนถึงวันที่รอบเดือนควรจะมา มีแนวโน้มสูงว่าคุณตั้งครรภ์
  2. ตรวจปัสสาวะหลังประจำเดือนขาด 1 สัปดาห์: เพื่อความแม่นยำมากขึ้น
  3. ปรึกษาสูติแพทย์: การตรวจเลือดจะสามารถยืนยันการตั้งครรภ์ได้แม่นยำในช่วงเริ่มตั้งครรภ์มากที่สุด

ความแตกต่างระหว่างอาการก่อนมีประจำเดือน vs อาการของคนท้องช่วงแรก

ก่อนมีประจำเดือน เจ็บหน้าอก มีบ้าง แต่ไม่เปลี่ยนสี ปวดท้องปวดท้องร่วมกับประจำเดือน อารมณ์แปรปรวนเฉพาะใกล้วันประจำเดือน เหนื่อยล้ารู้สึกบ้างเล็กน้อย
 
อาการของคนท้อง อาการเตือน เมื่อประจำเดือนขาด เจ็บหน้าอก เจ็บมากขึ้น และหัวนมเริ่มเข้มขึ้น ปวดท้อง ปวดหน่วงแบบลึก และไม่มีเลือดออก อารมณ์ แปรปรวนตั้งแต่หลังไข่ตก  เหนื่อยล้า อ่อนแรงแบบไม่ทราบสาเหตุ 

เตรียมความพร้อมอย่างไร หากสงสัยว่าตั้งครรภ์แล้วจริง

เมื่อตรวจพบว่าตั้งครรภ์หรือมีแนวโน้มสูง สิ่งที่คุณควรเริ่มทำทันทีคือ:

  1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และบุหรี่
  2. เริ่มรับประทานกรดโฟลิก วันละ 400-600 ไมโครกรัม เพื่อพัฒนาระบบประสาทของทารก
  3. จัดตารางนอนให้เพียงพอ ลดความเครียด และเริ่มออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดินหรือโยคะคนท้อง
  4. จองวันฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่สะดวก ภายใน 12 สัปดาห์แรก 

ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ เปลี่ยนแปลงร่างกายคุณอย่างไรบ้าง?

ฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) เป็นตัวหลักที่ถูกผลิตจากรกในตลอดการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้ทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น

  • รักษาระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนให้สูงขึ้น
  • กระตุ้นให้ร่างกายไม่หลั่งประจำเดือน
  • ทำให้เต้านมและมดลูกเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์

ระดับ hCG จะเพิ่มขึ้นเท่าตัวทุกๆ 48-72 ชั่วโมงในช่วงแรก และนี่คือ สิ่งที่ทำให้เกิดอาการของคนท้อง ซึ่งเป็นอาการเตือนเริ่มท้องได้ 1 สัปดาห์ 

ปฏิกิริยาของร่างกายต่อชีวิตใหม่ เมื่อการฝังตัวเกิดขึ้น ร่างกายแม่จะเริ่มเปลี่ยนไป ได้แก่

  • การสร้างหลอดเลือดใหม่ เพื่อเชื่อมต่อกับรก
  • ปรับระบบภูมิคุ้มกัน ไม่ให้ต่อต้านตัวอ่อน
  • เปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อรองรับพลังงานที่ทารกต้องการ ทำให้มีอาการหิวบ่อย น้ำตาลต่ำ หน้ามืดง่าย

ทั้งหมดนี้คือ “เบื้องหลังของอาการตั้งครรภ์” ที่แม้ยังไม่มีการเติบโตทางภายนอก แต่ร่างกายกำลังเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 

การสังเกตอาการให้ไว รู้ทันตั้งแต่สัปดาห์แรก

อาการของคนท้อง หรือ อาการเตือน เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ อาจยังไม่ชัดเจน แต่ร่างกายของคุณกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งตั้งแต่วันแรกที่ชีวิตใหม่เริ่มต้น รู้ทันสัญญาณ และเข้าใจร่างกายตนเองให้มากที่สุด คือ การมอบการต้อนรับที่อบอุ่นที่สุดให้แก่ลูกน้อย 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้องและการส่องกล้อง

ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
ศูนย์สุขภาพสตรี

แชร์ :

บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง