ภาวะบางอย่างแม้ไม่พบได้บ่อย ๆ อย่างภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด อาจส่งสัญญาณเตือนให้เรารู้ในยามที่ภาวะนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นแล้วก็ได้
เคสของคุณรัตนา นีสกุล เป็นตัวอย่างสำคัญที่ทำให้เรารู้ว่า โรคร้าย ๆ อาจอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด โดยปกติแล้วคุณรัตนาเธอเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ทำงาน พักผ่อน ไม่มีสัญญาณเตือนอะไรล่วงหน้า แต่ด้วยอาการเจ็บหน้าอกที่ผิดปกติมันส่งเธอเข้ารับการผ่าตัดด่วนแบบที่เธอเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
รู้จักภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด ภาวะที่อันตรายมากกว่าเจ็บหน้าอก
Aortic dissection คือภาวะที่ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น การมีความดันโลหิตสูง มีโรคหลอดเลือดแดงแข็ง มีโรคซิฟิลิส มีการบาดเจ็บบริเวณทรวงอกหรือท้อง และคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด เป็นต้น
ภาวะนี้ส่งผลให้เลือดไหลออกจากหลอดเลือดแดงใหญ่เข้าไปในผนังหลอดเลือดและแยกผนังหลอดเลือดออกเป็นสองชั้น มีโอกาสที่หลอดเลือดจะแตกหรืออุดตันได้ Aortic dissection แบ่งออกเป็นสองชนิดหลัก ๆ ตามตำแหน่งที่เกิดรอยฉีก คือชนิด A เกิดการฉีกขาดบริเวณหลอดเลือดใกล้หัวใจ และชนิด B เกิดการฉีกขาดบริเวณหลอดเลือดแถวช่องท้องห่างจากหัวใจ ซึ่งชนิด A มักพบได้บ่อยกว่าและรุนแรงกว่าชนิด B
อาการของ aortic dissection มักเป็นอาการ เจ็บหน้าอก ปวดรุนแรงบริเวณทรวงอกลามถึงหลัง หรือปวดบริเวณท้อง หากพบอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด ซึ่งหากตรวจพบหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดจริง มักจะต้องรักษาด้วยผ่าตัด
อาการเจ็บหน้าอกชนิดที่ไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน
คุณรัตนาเดิมทีเธอเป็นคนที่ไม่มีโรคประจำตัว ดำเนินชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวได้ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่ในวันที่เธอมีอาการบางอย่าง มันเกิดขึ้นทันทีโดยที่เธอไม่ทันรู้ตัวว่าตนมีความเสี่ยงเลยเสียด้วยซ้ำ
“ตอนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ พอจะลุกขึ้นก็มีอาการเจ็บหน้าอก เจ็บแบบไม่เคยเจ็บมาก่อน” คุณรัตนากล่าว
อาการที่คุณรัตนาพบคืออาการเจ็บหน้าอกชนิดที่เธอเองก็ไม่เคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อน ความเจ็บปวดนั้นเปรียบเสมือนการถูกฟ้าผ่า หรือโดนแส้ฟาดแรง ๆ เข้าที่ลำตัว อาการแบบนี้เป็นอาการที่ไม่ปกติ เธอจึงขอความช่วยเหลือจากสามีให้ช่วยนำเธอไปส่งโรงพยาบาล
เจ็บหน้าอกจากรอยปริขนาดเล็ก แต่อาจก่อปัญญาขนาดใหญ่
เมื่อถึงมือแพทย์คุณรัตนาได้แจ้งแพทย์ว่าเจ็บหน้าอก และแพทย์ได้ส่งตรวจหลายอย่างเพราะอาการเจ็บหน้าอกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น เส้นเลือดในช่องท้องหรือเส้นเลือดในหัวใจที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่ฉุกเฉินและอันตรายจะต้องได้รับการตรวจที่ละเอียดจากคุณหมอเฉพาะทาง ทั้งนี้เบื่องต้นแพทย์สงสัยว่าคุณรัตนาอาจจะเป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน แต่ผลตรวจเบื้องต้นไม่พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ขณะเดียวกันก็พบว่าคุณรัตนามีระดับความดันโลหิตสูงมาก
กระทั่งมีการส่งตรวจเอคโค่หัวใจ และยืนยันอีกครั้งด้วยการตรวจ CT scan จากคำบอกกล่าวของคุณหมอสุเทพ พบว่าคุณรัตนามีรอยปริฉีกตรงหลอดเลือดแดงใหญ่ทางออกจากหัวใจซึ่งมีส่วนเชื่อมต่อกับหลอดเลือดสมอง เมื่อเจอสาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกเจ้าปัญหาแล้ว เบื้องต้นแพทย์ได้ควบคุมระดับความดันโลหิตเพราะหากปล่อยทิ้งรอยปริจะถูกกัดเซาะไปเรื่อย ๆ จนผนังหลอดเลือดอาจฉีกขาด ที่สำคัญอาการนี้เป็นสัญญาณอันตรายที่อาจทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาเช่น หัวใจวายเฉียบพลัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน อัมพฤกษ์เฉียบพลัน อัมพาตเฉียบพลัน
จากเจ็บหน้าอกถึงหน้าห้องผ่าตัด
“โรคนี้พอเป็นแล้วโอกาสที่ผู้ป่วยมีโอกาสจะเสียชีวิต จากสถิติ ประมาณ 1% ต่อชั่วโมง” คุณหมอศิริวสันต์กล่าว
โรคนี้เป็นโรคอันตรายและวินิจฉัยได้ยาก ดังนั้นกระบวนการตั้งแต่การวินิจฉัยจนถึงการเตรียมการผ่าต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด เพราะยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ในเคสของคุณรัตนาหลังจากแพทย์วินิจฉัยได้แล้วว่าเจอภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด ชนิด A แล้วทางโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาจึงได้เตรียมทีมแพทย์ พยาบาล และความร่วมมือจากโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ เพื่อดำเนินการผ่าตัดให้เร็วที่สุด
“ไม่ได้หลับได้นอนเลยวันนั้นแฟนเราผ่า 5 ทุ่มเราก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเป็นกังวลใจมาก” คุณวิภัช สามีคุณรัตนากล่าว
ถึงแม้โรคนี้จะอันตรายและน่ากังวลใจ แต่สุดท้ายการผ่าตัดรักษาคุณรัตนาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยใช้เวลาเพียง 7 ชม. จากปกติที่ใช้เวลาประมาณ 10 ชม.
หันมาดูแลสุขภาพเป็นประจำ แม้ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกแล้ว
หลังจากพักฟื้น ดูแลหลังรักษาจนกลับไปใช้ชีวิตประจำได้เป็นปกติ คุณรัตนาเธอหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น หมั่นออกกำลังกาย เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เลี่ยงอาหารเค็มจัด ของทอด ของมัน การหันมาดูแลตัวเองครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ทำให้เราเสี่ยงโรคเดิมซ้ำ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูงและภาวะความดันโลหิตสูง ที่อาจก่อให้เกิดโรคร้ายบางอย่างในอนาคตได้
ภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด เป็นภาวะอันตรายที่ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก หากพบอาการเจ็บหน้าอย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อวินิจโรคให้เร็วที่สุด