การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง

HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy) คืออะไร?

HBOT (Hyperbaric Oxygen Therapy) คือ การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง เป็นห้องที่ให้การรักษาพยาบาลด้วยการนำออกซิเจนความดันสูงมาบำบัดโรค  เป็นการรักษาผู้ป่วยด้วยการให้ออกซิเจนที่มีลักษณะพิเศษ คือ ให้ผู้ป่วยหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ขณะอยู่ในห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) ที่มีความดันภายในสูงกว่า 1บรรยากาศ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณที่สูงมากกว่าการให้ออกซิเจนตามปกติ

HBOT มีประโยชน์หลายอย่างต่อสุขภาพของร่างกาย ซึ่งรวมถึง

1. การฟื้นฟูแผลและบาดแผล

HBOT ช่วยกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูแผลและบาดแผลโดยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่เข้าสู่เลือดและเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ เช่น แผลเรื้อรัง, การผ่าตัด, แผลไหม้ เป็นต้น

2. การรักษาโรคเรื้อรัง บางประเภทของโรคเรื้อรัง

เช่น โรคน้ำหนีบ (Decompression Sickness) หรือแผลเบาหวาน อาจได้รับประโยชน์จาก HBOT เนื่องจากการเพิ่มออกซิเจนช่วยลดการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อและส่งเสริมการฟื้นฟู

3. การลดการอักเสบ

HBOT ช่วยลดการอักเสบในร่างกายโดยเพิ่มปริมาณออกซิเจน ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวด บวม

4. การปรับปรุงการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

ในกรณีของการบาดเจ็บ การใช้ HBOT อาจช่วยในกระบวนการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและลดเวลาการฟื้นฟู

5. การป้องกันการติดเชื้อ

การใช้ HBOT อาจช่วยในการป้องกันการติดเชื้อหลายชนิด โดยออกซิเจนที่มากช่วยในการกำจัดแบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคได้

5. การส่งเสริมสุขภาพทั่วไปและช่วยชะลอความเสื่อม

บางคนใช้ HBOT เพื่อส่งเสริมสุขภาพทั่วไปและลดอาการเหนื่อยล้า ช่วยให้มีสมรรถภาพร่างกายและสมองที่ดีขึ้น

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง

• ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาตร์ใต้น้ำและแจ้งข้อมูลสำคํญ เช่น โรคประจำตัว อาการผิดปกติ ยาที่ใช้ประจำ
• ตรวจสุขภาพทั่วไปและเอกซเรย์ปอด
• ถอดเครื่องประดับและอุปกรณ์สื่อสาร คอนแทคเลนส์ และเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้
• รับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ตามปกติ ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
• ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับความดันในช่องหู

ข้อห้ามและควรระวังในการใช้ HBOT

1. ผู้ที่เป็นหวัด คัดจมูก หรือหูอื้อ ต้องรอให้อาการดังกล่าวหายดีก่อน
2. ผู้ที่เยื่อแก้วหูฉีกขาด หรือหูชั้นกลางอักเสบ (Otitis Media)
3. ผู้ที่มีประวัติภาวะหัวใจล้มเหลว
4. ผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับปอด
5. ผู้ที่มีอาการกลัวที่แคบ
6. ผู้ที่มีแผนจะเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือเพิ่งลงจากเครื่องบินภายใน 8 ชั่วโมง

การใช้ HBOT ควรพิจารณาในบริบทของอาการและความต้องการของผู้ป่วย โดยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการเริ่มการรักษาในแต่ละกรณี