โกรทฮอร์โมน (growth hormone) หรือ ฮอร์โมนเจริญเติบโต คืออะไร?
“โกรทฮอร์โมน (growth hormone)” หรือ “ฮอร์โมนเจริญเติบโต” เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตในเด็ก การขาดฮอร์โมนนี้หรือมีการหลั่งฮอร์โมนไม่เพียงพอจะทำให้เด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ย การให้ยาโกรทฮอร์โมนทดแทนช่วยกระตุ้นให้เด็กเติบโตและมีส่วนสูงเพิ่มขึ้น ยาโกรทฮอร์โมนยังนำมาใช้รักษาภาวะเด็กตัวเตี้ยจากสาเหตุอื่นบางชนิด
โกรทฮอร์โมนมีความสำคัญอย่างไร?
ในร่างกายโกรทฮอร์โมน (growth hormone หรือ somatotropin หรือ GH) เป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากส่วนหน้าของต่อมใต้สมอง (anterior pituitary gland) โครงสร้างโกรทฮอร์โมนประกอบด้วยกรดอะมิโน 191 ตัว การหลั่งฮอร์โมนนี้เกิดขึ้นตลอดช่วงอายุของคนแต่ปริมาณที่หลั่งมีมากหรือน้อยแตกต่างไปตามวัย การหลั่งเกิดขึ้นมากในวัยเด็กซึ่งอยู่ในช่วงที่กำลังเจริญเติบโต เด็กเล็กมีฮอร์โมนนี้ในระดับสูงและการหลั่งเกิดมากขณะหลับ ในผู้ใหญ่มีการหลั่งฮอร์โมนลดลงโดยเฉพาะผู้สูงอายุ โกรทฮอร์โมนมีฤทธิ์กระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยมีผลต่อเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะเกือบทุกชนิด ทำให้กระดูกของเด็กเจริญยาวขึ้นและเด็กมีรูปร่างสูงใหญ่ ส่วนในผู้ใหญ่ซึ่งหยุดสูงแล้วฮอร์โมนนี้ทำให้กระดูกกว้างและหนา โกรทฮอร์โมนมีความสำคัญต่อเมแทบอลิซึม (หมายถึงกระบวนการสร้างและสลายสาร) ของโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ตลอดจนการเรียนรู้ เด็กที่ขาดฮอร์โมนนี้ (รวมถึงการหลั่งที่ไม่เพียงพอ) สิ่งที่ปรากฏชัดคือเด็กมีรูปร่างเตี้ยแคระ
เด็กเติบโตช้าและเด็กตัวเตี้ยเกิดจากสาเหตุใดบ้าง?
มีสาเหตุมากมายทำให้เด็กเติบโตช้าและ/หรือเด็กตัวเตี้ย เช่น พันธุกรรมจากพ่อและแม่ การขาดอาหาร การขาดโกรทฮอร์โมน การทำงานของต่อมเพศน้อย การเป็นโรคหรือมีความผิดปกติบางอย่าง หรือเกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ
ภาวะเด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ยเนื่องจากขาดโกรทฮอร์โมน จากที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าโกรทฮอร์โมนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเด็ก การขาดโกรทฮอร์โมนจึงทำให้เด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ย การขาดฮอร์โมนอาจเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง และอาจขาดโกรทฮอร์โมนเพียงชนิดเดียวหรือขาดฮอร์โมนชนิดอื่นด้วย หากขาดฮอร์โมนชนิดอื่นด้วยต้องให้การรักษาความผิดปกติอื่นที่เกิดขึ้นนั้นเช่นเดียวกัน
ภาวะเด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ยเนื่องจากสาเหตุอื่น สาเหตุที่เด็กเติบโตช้าและ/หรือเด็กตัวเตี้ย นอกเหนือจากพันธุกรรมของพ่อและแม่ การขาดอาหารและการขาดโกรทฮอร์โมนแล้ว อาจมีสาเหตุอย่างอื่น เช่น ภาวะต่อมเพศทำงานน้อย (hypogonadism) ในผู้ชาย, ภาวะมีไทรอยด์ฮอร์โมนน้อย (hypothyroidism), โรคไตเรื้อรัง, ภาวะทารกตัวเล็กตั้งแต่คลอดเมื่อเทียบกับทารกทั่วไปที่มีอายุครรภ์เท่ากัน (small for gestational age) ซึ่งโดยทั่วไปจะโตทันเกณฑ์ใน 2 ปีหรือไม่เกิน 4 ปี, ความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ตัวอย่างเช่น กลุ่มอาการนูแนน (Noonan syndrome) ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนบางชนิด ทำให้มีความผิดปกติด้านการเจริญเติบโต ด้านโครงสร้างร่างกายและอวัยวะบางอย่าง ด้านการเรียนรู้และพัฒนาการต่าง ๆ, กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner syndrome) ในเพศหญิง ซึ่งมีความผิดปกติของโครโมโซมเอกซ์ (X chromosome) โดยมีแท่งหนึ่งหายไปบางส่วนหรือหายไปทั้งหมด ทำให้รังไข่ไม่ทำงาน ร่างกายมีพัฒนาการที่ผิดปกติและการเรียนรู้ด้อยลง, หรือภาวะเด็กตัวเตี้ยเกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ (idiopathic short stature)
ยาโกรทฮอร์โมนใช้กับใครบ้าง?
ยาโกรทฮอร์โมนนำมาใช้รักษาเด็กที่มีภาวะเติบโตช้าและเด็กตัวเตี้ยในหลายกรณีดังกล่าวข้างล่างนี้ อย่างไรก็ตามการใช้ในกรณีที่นอกเหนือจากรายที่ขาดโกรทฮอร์โมนนั้น ผลการศึกษาที่มาสนับสนุนประสิทธิภาพของยายังไม่ชัดเจนว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด
1. เด็กเติบโตช้าและตัวเตี้ยเนื่องจากขาดโกรทฮอร์โมน (หรือหลั่งไม่เพียงพอ) หากได้รับการรักษาในช่วงอายุ 0-3 ปี (โดยเฉพาะหากมีอายุต่ำกว่า 12 เดือน) จะเห็นผลดีในการเพิ่มทั้งส่วนสูงและน้ำหนัก หยุดใช้ยาเมื่อส่วนปลายของกระดูกยาวเชื่อมปิดกันแล้ว
2. เด็กตัวเตี้ยที่พบร่วมกับความผิดปกติอื่น (ตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อ เด็กเติบโตช้าและเด็กตัวเตี้ยเกิดจากสาเหตุใดบ้าง?) เช่น กลุ่มอาการนูแนน (Noonan syndrome), กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner syndrome) มีการศึกษาที่สนับสนุนว่ายาโกรทฮอร์โมนช่วยให้เด็กตัวเตี้ยที่พบร่วมกับความผิดปกติที่กล่าวข้างต้นสูงเพิ่มขึ้นได้ (เช่น ในกลุ่มอาการเทอร์เนอร์ความสูงเพิ่มอาจเพิ่มได้ 5-8 เซนติเมตร) อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายาโกรทฮอร์โมนช่วยเพิ่มความสูงได้เท่าใด เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับยาเพื่อรักษาความผิดปกติอื่นร่วมด้วย
3. เด็กตัวเตี้ยเนื่องจากมีภาวะทารกตัวเล็กตั้งแต่คลอดเมื่อเทียบกับทารกทั่วไปที่มีอายุครรภ์เท่ากัน (small for gestational age) ซึ่งเด็กโตไม่ทันเกณฑ์เมื่ออายุ 2-4 ปี อย่างไรก็ตามผลการรักษาอาจแตกต่างกันได้เนื่องจากพันธุกรรม อายุเด็กเมื่อเริ่มใช้ยา ระยะเวลาที่ใช้ยา หรือปัจจัยอื่น ๆ
4. เด็กตัวเตี้ยโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งประสิทธิผลของยาที่รายงานพบว่ามีความแปรปรวนสูง
ข้อควรคำนึงเมื่อใช้ยาโกรทฮอร์โมน
1. ผู้ที่ทำหน้าที่ฉีดยาอาจเป็นผู้ป่วยเองหรือผู้อื่น ควรผ่านการเรียนรู้ในการฉีดยาโกรทฮอร์โมนผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ และศึกษาเอกสารที่เป็นคำแนะนำในการฉีดยาอย่างละเอียด
2. ใช้ยาตามขนาดที่แนะนำ การใช้ยาเกินขนาดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลไม่พึงประสงค์ทั้งชนิดที่เกิดเฉียบพลันและผลในระยะยาว
3. ควรรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่อย่างเพียงพอโดยเฉพาะโปรตีนและแคลเซียม และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นการส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกายและความแข็งแรงของกระดูก
4. ควรฉีดยาอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำ การลืมฉีดยาจะทำให้ประสิทธิภาพของยาเกิดได้ไม่เต็มที่ และอาจเป็นสาเหตุทำให้เข้าใจผิดว่าขนาดยาที่ใช้อยู่นั้นไม่เพียงพอ
5. การฉีดยาเข้าใต้ผิวหนัง อาจฉีดบริเวณท้อง ต้นแขน สะโพกส่วนก้น หรือต้นขา ให้เปลี่ยนบริเวณที่ฉีดในแต่ละครั้งเพื่อไม่ให้เกิดการฝ่อของเนื้อเยื่อไขมันตรงที่ฉีด
6. เข้ารับการตรวจร่างกายตามนัด เพื่อประเมินด้านประสิทธิภาพของยาและการเฝ้าระวังผลไม่พึงประสงค์ของยาที่อาจเกิดขึ้น
ที่มา : บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน โกรทฮอร์โมน…ยารักษาภาวะเด็กเติบโตช้าและเด็กตัวเตี้ย
รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิง นงลักษณ์ สุขวาณิชย์ศิลป์
หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล